6 พ.ย. 2554

ความเป็นอมตะแห่งชีวิต

         ลองจินตนาการดูซิว่าถ้าเรามีอายุยืนยาวไปเรื่อยๆ ไม่มีวันแก่   ไม่มีวันเจ็บป่วย   ไม่มีวันตายมัน   จะดีขนาดไหน   ร่างกายที่ซ่อมแซมตัวเองได้และงอกใหม่ได้เรื่อยๆ ถ้าไปพูดเรื่องแบบนี้ให้คนอื่นฟังผมรับรองได้ว่าเขาคงจะตอบกลับมาว่า  จะเอาไปเขียนนิยายหรอ!!”

         ในยุคที่เทพเจ้ายังครองความคิดของคนส่วนใหญ่ความอมตะมีเฉพาะเทพเจ้าเท่านั้นและดูเหมือนว่าเทพเจ้าจะไม่อนุญาตให้มนุษย์มีความสามารถนี้   แต่ก็มีหลายตำนานเทพที่บอกเล่าว่ามีมนุษย์บางคนที่เป็นอมตะ   อย่างในมหากาพกิลกาเมช   อุตนาปิชติม บรรพบุรุษของกิลกาเมซก็เป็นมนุษย์อมตะที่ได้รับโอกาสจากพระเจ้าบอกข่าวเรื่องน้ำท่วมโลกให้ต่อเรือแล้วขนสัตว์อย่างละชนิดขึ้นเรือ   หลังจากนั้นเขาก็อยู่กับพระเจ้าอย่างนิรันดร์   หลายคนอาจสงสัยทำไมเรื่องของอุตนาปิชติมมันถึงไปเหมือนกันโนอาในคัมภีร์ไบเบิลนัก!!   ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน?  

         ยังมีตำนานที่เล่าถึงความเป็นอมตะของมนุษย์อีกเยอะแยะครับ   ทั้งที่เป็นอมตะด้วยตัวเองและต้องเสียสละชีวิตผู้อื่นเพื่อให้ตัวเองเป็นอมตะ   แต่ไม่ว่าจะยังไงพระเจ้าคือผู้ตัดสินว่าใครจะได้รับพลังอันเทียบเคียงพระเจ้า

         นอกจากนั้นคำว่า  ชีวิตอมตะ  ยังกลายเป็นวลีและความสามารถหนึ่งของเหล่าร้ายในการ์ตูนและภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง   แต่สุดท้ายก็ตายเพราะตัวเอกของเรื่องอยู่ดี   อีกความสามารถหนึ่งที่มักจะอยู่คู่กับความอมตะนั้นก็คือการซ่อมแซมร่างกาย   เรียกได้ว่าคนไหนเป็นอมตะก็จะต้องซ่อมแซมร่างกายตัวเองได้   ไม่งั้นจะเป็นอมตะไปทำไมล่ะสู้ตายไปเสียดีกว่ากลายเป็นคนพิการ   ส่วนเรื่องการซ่อมแซมร่างกายนี่สัตว์บางชนิดก็ทำได้ครับอย่างจิงจก   จิงเหลน   ซาลาแมนเดอร์   ดาวทะเล   ก็งอกส่วนที่ถูกตัดออกไปได้   แต่น่าแปลกตรงที่ทำไมพอเป็นสัตว์ใหญ่อย่างจระเข้กลับไม่มีข่าวว่ามันงอกหางใหม่หรือว่าไม่มีใครไปตัดหางมันกันแน่?

เซลล์ในร่างกาย

         แต่ก็เพราะตรงนี้แหละมนุษย์เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมที่ธรรมชาติให้ความสามารถนี้กับสัตว์ชั้นต่ำพันธุ์นั้น   แต่กับมนุษย์กลับไม่ยอมให้   เมื่อธรรมชาติไม่ยินยอมมนุษย์ก็สร้างมันขึ้นมาเอง!   ความสามารถที่เปรียบประดุจพระเจ้า   ความอมตะที่มีเพียงพระเจ้าที่ได้ครอบครอง   และต่อจากนี้ไปมนุษย์ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอำนาจของพระเจ้าอีกต่อไป  

         กลับเข้าเรื่องก่อนที่จะออกทะเลมากไปกว่านี้!!   อย่างที่ผมพร่ำพรรณนามานั้นแหละ   ปัจจุบันมนุษย์มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่  100  ปีและหวังอยากยิ่งว่าจะมีอายุยืนยาวมากกว่านี้แบบไม่เจ็บไม่ป่วยไม่แก่   ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าจะอยู่แล้วจะทำอะไรต่อก็เถอะ   ตอนนี้ผมจะบอกอะไรให้ครับ   มนุษย์ก้าวเท้าเข้าสู่ประตูแห่งความลับของความอมตะเรียบร้อยแล้ว!!!

         อะไรนะ!!   งั้นหมายความว่าอีกไม่นานมนุษย์ก็จะมีอายุยืนยาวขึ้นงั้นหรอ

         ไม่ใช่แค่อายุยืนขึ้นแต่ยังเอาชนะโรคทุกโรคได้เลยแหละครับ   ความพิการ   มะเร็ง   เอดส์   และโรคทางพันธุกรรมทุกชนิดจะไม่อาจเข้าย่างกลายในชีวิตมนุษย์อีกเลย   แน่นอนว่าไม่ใช่เวทมนต์คาถาแต่มันเป็นปาฏิหาริย์ทางวิทยาศาสตร์   ผมว่าพวกเราทุกคนคงเคยได้ยินเทคโนโลยีนี้กันมาแล้วเพียงแต่ยังไม่รู้ว่าถึงความสามารถของมันจริงๆ เท่านั้นเอง  

         พักหลังๆ มานี่พวกเรามักได้ยินคำว่า  สเต็มเซลล์  กันบ่อยขึ้นถึงจะยังอยู่ในช่วงทดลองแต่ก็มีการอนุญาตให้รักษาอยู่หลายโรค   แล้วมันคืออะไรล่ะ!!”  มันคือเซลล์ต้นกำเนิดของร่างกายมนุษย์ที่สามารถแตกตัวเองได้โดยไม่ต้องอาศัยการปฏิสนธิ   พูดง่ายๆ ว่ามันสามารถแตกตัวไปทำงานแทนเซลล์ต่างๆ ที่เสื่อมสภาพในร่างกายคนเราได้ทั้งเซลล์เม็ดเลือด   เซลล์ประสาท   เซลล์สมอง   เซลล์กล้ามเนื้อทุกส่วน   นั้นก็เท่ากับว่าเราจะไม่เจ็บป่วยด้วยโรคภัยแต่ถ้าพิการมันจะแตกตัวไปแทนเซลล์ที่ถูกตัดออกทันทีแบบไม่มีที่สิ้นสุด   ลองจินตนาการดูซิครับว่าถ้าเราแขนขาดแล้วแขนงอกใหม่ได้เหมือนหางจิ้งจกมันจะดีขนาดไหน   ถ้าจะพูดถึงความสามารถของเสต็มเซลล์แล้วก็ต้องไปดูว่าเซลล์แต่ล่ะเซลล์มีลักษณะอย่างไร

การแตกตัวของสเต็มเซลล์

         ปกติเซลล์ในร่างกายเราจะทำงานเฉพาะอย่างเกิดมาทำหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่นั้นไปจนตาย   อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าเซลล์ในร่างกายเราตายทุกวัน   ไม่ต้องห่วงก่อนเซลล์จะตายมันจะแตกตัวให้เซลล์รุ่นลูกทำงานต่อ   จากนั้นเซลล์รุ่นลูกจะรับข้อมูลแล้วทำงานต่อไปปัญหามันอยู่ที่ข้อมูลที่รับมาจะขาดๆ หายๆ ทำให้เซลล์รุ่นลูกไม่เหมือนรุ่นแม่   พอนานไปความผิดปกติจะชัดขึ้นและนี่แหละคือสาเหตุของการแก่!!   การแก่ก็คือการที่เซลล์มันเสื่อมสภาพเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งเราก็จะตาย   แต่สเต็มเซลล์มีคุณสมบัติอันอัศจรรย์สามารถแตกตัวใหม่ไม่จบไม่สิ้นและมีค่าเป็นอนันต์   นอกจากจะแตกตัวใหม่เรื่อยๆ แล้วมันยังปรับตัวไปตามสารพันธุกรรมของแต่ล่ะคน   ทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพ   ตรงที่นี้แหละที่ผมบอกว่ามันจะทำให้มนุษย์เป็นอมตะ!!  

สเต็มมีอยู่ในหลายส่วนของร่างกายเรา

         โรคมะเร็ง   เกิดจากเซลล์ตัวอ่อนที่เรียกว่าเอ็มบริโอแตกตัวผิดปกติ   การรักษาก็แค่ตัดเซลล์มะเร็งออกแล้วฉีดเสต็มเซลล์ไปแทนที่   จากนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรแค่รอคอยเพราะสเต็มเซลล์มันจะไปแตกลูกหลานและทำงานแทนเนื้อเยื่อที่ถูกตัดไปเอง  

         ถ้าผลการทดลองออกมาเป็นที่น่าพอใจหรือสมหวังอย่างที่เราคิดมนุษย์จะไม่มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่  100  ปีอีกต่อไปจะอยู่เป็นหมื่นเป็นแสนปีก็ไม่มีปัญหาหรือจนกว่าเราจะเบื่อการมีชีวิตก็ได้  


         ในอนาคตสเต็มเซลล์ถูกฉีดให้กับทารกในทุกโรงพยาบาลจะเกิดอะไรขึ้น?   ผมว่ามนุษย์ต้องแย่งกันกินแย่งกันอยู่แล้วที่สำคัญเราไม่รู้ว่าเราจะแก่เมื่อไหร่?   เหมือนคนตาบอดที่พายเรืออยู่กลางทะเลไม่รู้ว่าจะถึงฝั่งเมื่อไหร่   ต้องพายไปทางไหน   แล้วทิศนั้นมีฝั่งจริงๆ หรือเปล่า!!   ฝั่ง  ที่ผมเปรียบเปรยในที่นี้ก็คือความ  ตาย  นั้นเอง   ใครที่รวยก็จะอยู่อย่างสบายจนกว่าจะเบื่อและเมื่อเบื่อก็ไม่รู้จะทำอย่างไงจะตายก็ตายไม่ได้เพราะสเต็มเซลล์มันแตกตัวซ่อมแซมตัวเองไม่ให้แก่   ไม่ให้ตาย   บวกกับการแพทย์ในยุคอนาคตผมว่าแค่ไม่กี่วันก็รักษาได้ต่อให้คุณถูกรถชนแขนไปทาง   ขาไปทาง   หรือตับไตใส้พุงเละเทะก็เหอะ   ส่วนใครที่จนไม่มีจะกินก็ต้องริ้นรนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและไม่ใช่แค่ร้อยปีอย่างปัจจุบัน (ส่วนใหญ่ไม่ถึงร้อยปีก็ตายแล้ว)   

         แล้วในที่สุดมนุษย์ก็จะโหยหาความตาย   และคิดกันว่าทำไมเราไม่ตายซักที!!!

2 ความคิดเห็น :

  1. ผมก็ศึกษามานานครับ แต่ที่ไม่รู้คือมีสถาบันไหนวิจัยเรื่องการใช้ Stem Cell ในการย้อนอายุ หรือเติมเต็มเซลล์ทุกส่วนในร่างกายให้ไม่แก่มั้ง ไม่รู้วิจัยหรือป่าวครับ ที่เห็นมีแต่วิจัยรักษาโรค ใครรุ้ก็บอกด้วยนะครับ หรือว่าเขาวิจัยอยู่แต่ยังไม่ออกสื่อ ???

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ