14 ส.ค. 2560

นาคตามพงศาวดารพม่า

   ตามสัญญาบทความก่อนบอกไว้ว่าจะเล่าเรื่องพญานาคในพงศาวดารและตำนานพื้นบ้านของรอบๆ บ้านเราให้ฟัง  เริ่มต้นด้วยตำนานของพม่ากันเลย  แล้วอย่าได้คิดว่ามันจะเหมือนๆ กันหมดนะ  เพราะแต่ล่ะท้องที่ก็มีพล็อตแตกต่างกันไป  บ้างก็ใส่ฉากแอ็กชั่นลงไป  บ้างก็จบแบบแฮ็ปปี้เอ็นดี่ง  แต่ของพม่าจบด้วยดราม่าลงท้ายด้วยน้ำตาตลอด  ไม่เชื่อลองอ่านดูซิ

   เรื่องมีอยู่ว่่า....เมืองตะโก้งมีตายายคู่หนึ่ง  มีลูกชายชื่อว่า "สอกตะเรียต" เมื่อโตเป็นหนุ่มก็เริ่มออกเดินทางหาอาจารย์เพื่อหาวิชาใส่ตัว  พอดีไปเจออาจารย์มีชื่อคนหนึ่ง (แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าชื่ออะไรในหนังสือไม่ได้บอกไว้)  หลังร่ำเรียนอยู่ 3 ปีแต่ไม่สอนอะไรให้เลย สอกตะเรียตจึงบอกลาอาจารย์มีชื่อ (ที่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร) ขอตัวกลับบ้าน  อาจารย์กไม่ห้ามแต่ก่อนไปได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า "อย่าเห็นแก่นอนและยิ่งถามปัญหามากเท่าใด  ก็จะยิ่งได้คำตอบมากข้อขึ้นเท่านั้น"  ขณะนั้นเองทางเมืองตะโก้งได้สิ้นพระเจ้าแผ่นดิน  ก่อนตายพระองค์สั่งไว้ว่า "ผู้ใดอภิเษกสมรสกับพระนางภูคำพระราชธิดา  ก็ให้ผู้นั้นเป็นพระราชา"  แต่แล้วก็มีปัญหาเมื่อชายหนุ่มที่เข้าอภิเษกตายในวันพรุ่งเช้าของวันส่งตัวเข้าหอ


วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแคน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่




  
   แน่นอนว่าพระนางภูคำไม่ได้เล่นเมคเลิฟจนตายเลยกลายเป็นปัญหาที่เสนาบดีขบคิดหัวแทบแตกและหาสาเหตุไม่ได้  และแล้วพระเอกของเรื่องก็รับสาอา  สอกตะเรียตได้นึกถึงคำพูดทิ้งท้ายของอาจารย์มีชื่อขึ้นมาได้บวกความกลัวว่าตายเหมือนคนก่อนๆ เลยระวังตัวไม่หลับไม่นอนทั้งคืน  (ไม่ได้เล่นเมคเลิฟจริงๆ นะ)  และแล้วความลึกลับของพระนางภูคำก็ปรากฎ...

   แท้ที่จริงแล้วพระนางภูคำมีคู่ขาเป็นพญานาคอยู่ก่อนแล้ว  ทุกๆ  7 วันจะมาหานาง 1 ครั้งแล้วมันตรงพอดิบพอดีกับวันอภิเษกพอพญานาคเห็นมีคนนอนอยู่ข้างนางก็ลงฆ่าซะทุกครั้งไป  โดยเจ้านาคตนนี้จะเลื้อยลงมาจากเสาร์ต้นหนึ่งซึ่งมันกลวงลงมาแปรงร่างลงนอนกับพระนางภูคำ  แต่คราวนี้เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของพระราชาสอกตะเรียต  และแล้วก็วนมาถึงวันพญานาคมาหาอีกครั้ง  ตลอดเวลา 7 วันพระราชาตั้งหน้าตั้งตาลับดาบจนคมกริบและคืนนั้นได้ตัดต้นกล้วย 2 ต้นกับเขาควาย  รอจนพระมเหสีหลับสนิทจึงนำมาวางตรงที่บรรทมให้เหมือนมีคนนอนอยู่ (โห...เจ๊นี่ก็หลับสนิทเกิ๊นน)  ครั้งเวลาพญานาคมาเห็นว่าเป็นคนนอนอยู่ข้างพระนางภูคำ  ก็ตรงเข้ากัดเต็มแรงเขี้ยวก็ฝังจมกับเขาควายจนเอาไม่ออก  พระราชาสอกตะเรียตเห็นโอกาสก็ตรงเข้าไปฟันฉับเดียวคอพญานาคขาดกระเด็นกลิ้งคลุ่กๆ เป็นอันสิ้นชีวิตไป  แต่เรื่องยังไม่จนแค่นี้  ทางพระมเหสีภูคำเกิดโกรธที่สอกตะเรียตไปฆ่าคู่ขาของนางเข้าแต่ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่เก็บความแค้นไว้  ที่ทำได้ก็มีแค่ฝอกหนังเอามาทำเป็นที่นอนกับหมอน  เอากระดูก 1 ท่อนมาทำเป็นปิ่นปักผม  และรอคอยเวลาที่แก้แค้นพระราชาสอกตะเรียต


งูมังกร  มันมีตัวตนจริงๆ นะ


   เวลาผ่านมาเท่าไรไม่ทราบได้พระนางภูคำได้ก็นึกวิธีแก้แค้น  เลยไปถามคำถามพระราชาโดยอ้างว่า  "ถ้าพระราชาตอบคำถามได้ให้ประหารพระมเหสีเสีย  แต่ถ้าตอบไม่ได้ให้พระมเหสีประหารพระราชาเสีย"  มันช่างเป็นวิธีที่แยบยลมากประมาณว่าถ้าฆ่าไม่ได้ก็ขอตายเองเลยและกันซินะ  และคำถามนั้นมีอยู่ว่า  "อะไรเอ่ย...พันหนึ่งค่าซัก  ร้อยหนึ่งค่าเขาถัก  กระดูกเจ้าปัก  ช้องผมน้องรักเสมอใจ"   นางให้โอกาส 7 วันหาคำตอบมาให้ได้ 

   พระราชาตอบไม่ได้ไล่ถามตั้งแต่เสนาบดีจนไปถึงมหาดเล็กแต่ก็ไม่มีใครตอบได้    จวนเจียนจะถึงกำหนดและแล้วตัวช่วยก็มาถึงเมื่อตายายได้ยินข่าวที่สอกตะเรียตเป็นพระราชาจึงเดินทางมาเยี่ยม  ขณะเดินทางมานั้นได้ดันไปได้ยินกา 2 ตัวพูดกัน (ตายายนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ) 
   กาตัวแรกพูดว่า "พรุ่งนี้เราไปหากินที่ไหนกันดี"
  กาตัวที่สองตอบอย่างมั่นใจว่า "ก็ที่เมืองตะโก้งใกล้ๆ นี่แหละ"




   "ทำไมต้องไปที่นั่นล่ะ"
   "ไม่รู้เร๊อะว่าพรุ่งนี้จะครบกำหนดที่พระราชาตอบคำถามไม่ได้ต้องถูกประหาร  เราจะได้แทะเนื้อพระราชากันแล้ว"
   กาตัวแรกถามกลับว่า "แกมีฟันแทะเร๊อะ  เขาเรียกจิกกินว้อย!!"
   กาตัวที่ 2 ได้ตอบกลับมาว่า "อ้าวไอ้นี้นอกบทอีก  แกต้องถามว่าคำตอบคืออะไรต่างหาก  บทพูดยิ่งน้อยๆ อยู่  เอาเป็นว่าคำตอบมันมีอยู่ว่า  ข้อแรก พันหนึ่งค่าเขาซัก ก็หมายถึงจ้างบุรุษลอกหนังนาคซักฟอกให้สะอาด  โดยเสียค่าซักหนึ่งพัน  ร้อยหนึ่งค่าเขาถัก  ก็คือให้บุรุษเย็บถักหนังนาคให้เป็นที่นอนกับหมอนหนุน  โดยเสียค่าจ้างหนึ่งร้อย    กระดูกปักเจ้าช้องผน้องรักเสมอใจ  ก็หมายถึงความรักที่มีต่อพญานาคอย่างสุดใจ  จึงเอากระดูกมาทำปิ่นปักผม"
   แล้วตายายก็นำเรื่องนี้ไปเช่าให้พระราชาสอกตะเรียตฟัง  เป็นอันว่าพระราชาก็แก้ปัญหาได้และไม่เอาโทษพระนางภูคำแต่ตัดออกจากการเป็นพระมเหสีแทน

   เป็นอันจบไปอีกเรื่องที่ไม่แฮปปี้เอ็นดิ้งเท่าไรออกแนวฆ่าตกรรมอำพรางซะด้วย  ว่าแต่รู้สึกเหมือนผมไหมว่าพญานาคเป็นตัวประกอบยังไงไม่รู้


เครดิสภาพ

1 ความคิดเห็น :