จั่วหัวซะตื่นเต้นเลย !! แต่ก็ไม่ผิดเท่าไรนักหรอกครับ เพราะว่าปี 1999 ลล์อย พาย ผู้ที่จบการศึกษาด้านจิตวิทยาแต่หันมาศึกษาหาต้นตอของพันธุกรรมมนุษย์ ชายคนนี้ได้รับกระโหลกปริศนาจากสามีภรรยาคู่หนึ่งเพื่อให้ไขความลับของกะโหลกนั้น
ซ้ายกะโหลกมนุษย์โลก - ขวากะโหลกปริศนา |
แล้วกระโหลกนั่นมันแปลกตรงไหน ? มันแปลกมากจนอาจจะไม่ใช่กะโหลกมนุษย์โลก สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดๆ ก็คือ ขนาด กะโหลกปริศนานั้นทีขนาดใหญ่กว่ากะโหลกมนุษย์โลก ปกติกะโหลกมนุษย์โลกโตเต็มวัยจะมีความจุประมาณ 1,400 ลบ.ซม. แต่กะโหลกนั้นมีความจุถึง 1,600 ลบ.ซม. ทั้งๆ ที่ตรวจสอบอายุได้ 5 - 6 ปี เท่านั้น หากเจ้าของกะโหลกโตเต็มวัยอาจมีความจุถึง 1,800 ลบ.ซม. เบ้าตา ! นี่ก็แปลก มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ เบ้าตามีความลึกถึง 5 ซม. แต่เบ้าตากะโหลกปริศนามีความลึกเพียง 3 ซม. และเป็นรูปหยดน้ำ สุดท้ายที่แปลกก็คือ “ฟัน” ที่มีทั้งหมดถึง 3 ชุด แต่พวกเรามีแค่ 2 ชุด คือฟันน้ำนมและฟันแท้
ซ้ายกะโหลกมนุษย์โลก - ขวากะโหลกต่างดาว |
คราวนี่นาย ลล์อย พาย แน่ใจเป็นหนักหนาว่าเจอของจริงเข้าให้แล้ว หลังจากที่เจอแต่พวกที่มาเล่าเรื่องราวพิลึกพิลั่นต่างๆ นานาแต่หาหลักฐานไม่ได้ เจ้ากะโหลกนั่นเขาได้มาจากสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ได้รับมาจากเพื่อนบ้านสาวก่อนที่เธอจะตาย สามีภรรยาเล่าว่าสาวเพื่อนบ้านคนนั้นได้มาตั้งวัยเด็กเมื่อ 50 กว่าปีก่อนตอนกำลังรุ่นๆ ขณะไปเยี่ยมญาติที่อยู่หมู่บ้านเล็กๆ ห่างจากเมืองชิวาวา (ไม่เกี่ยวกับหมาชิวาว่านะ) ซึ่งเต็มไปด้วยอุโมงค์และถ้ำจากการขุดเหมือง แต่ด้วยนิสัยวัยรุ่นเธอแอบไปเล่นในเขตอันตรายเสมอถึงแม้พ่อแม่จากห้ามก็ตามที จุดเริ่มต้นกะโหลกประหลาดอยู่ตรงนี้แหละ!! เธอลงไปอุโมงค์แห่งหนึ่ง เธอเจอกับโครงกระดูก 2 ร่าง โครงกระดูกร่างที่เล็กกว่าโอบแขนโครงกระดูกที่ใหญ่กว่า
ภาพเอ็กซเรย์กะโหลกปริศนา |
ไม่รอช้าเธอขุดและเก็บโครงกระดูกทั้งหมดกลับบ้านทันที (ใจกล้าดีแหะ!) เมื่อกลับถึงบ้านเธอวางตระกร้าที่ใส่โครงกระดูกไว้หน้าบ้าน ค่ำคืนนั้นบังเกิดฝนตกห่าใหญ่จนน้ำท่วมพัดเอากระดูกทั้งหมดลอยน้ำไปเหลือแค่กะโหลก 2 กะโหลกและฟันอีก 2 ซี่ สาวนน้อยเก็บกระดูกที่เหลือไว้จนช่วงสุดท้ายของชีวิต และก่อนตายเธอยกให้เพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านที่ว่านั้นก็คือสามีภรรยาที่กล่าวมาตั้งแต่ตันนั้นแหละ แต่ฝ่ายภรรยาไม่ได้ชื่นชมกะโหลกนั้นซักนิดทั้งดุด่า รบเร้า เคล้าคลึง เอ้ย!!! ไม่ใช่ๆ จน 5 ปีสามีกำลังจะนำกะโหลกนั้นไปทิ้งแต่นึกขึ้นมาได้ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งสนใจเรื่องนี้อยู่เลยนำไปให้ไขกันเล่นๆ ยามว่าง เพื่อนคนนั้นก็คือนาย ลล์อย พาย นั้นเอง
แล้วมันคือกะโหลกของใครล่ะ !?! ตามตำนานพื้นบ้านได้เล่าถึงพระเจ้าที่ลงมาอยู่กินกับหญิงสาวชาวโลก เห็นบอกว่าตามคำบรรยายของคนพื้นถิ่นแล้วพระเจ้าที่ว่านั้นมีลักษณะคล้ายมนุษย์ต่างดาวเกรย์
ลงมาอยู่กินฉันสามีภรรยาหรือทดลองแพร่เผ่าพันธุ์ !! เพราะว่าหญิงสาวที่โชคดี (หรือร้าย??) เธอคนนั้นเป็นหมันครับ แต่ไม่นานเธอท้องโย้และคลอดบุตรออกมาและเลี้ยงบุตรประหลาดอย่างลูกเป็นเวลา 6 ปี แต่อยู่ๆ พระเจ้าก็มาขอเด็กคืน ด้วยความเป็นแม่ที่ไม่อยากพรากจากลูกเธอพาลูกหนีในเวลาไม่นานต่อมา ตามตำนานเล่าว่าเธอเข้าไปหลบอยู่ในถ้ำและลงมือฆ่าลูกตัวเองซะและฝังให้แขนโผล่มาโอบแขนเธอไว้ และเธอก็กินยาพิษฆ่าตัวตาย
ตำนานลงตัวกับความให้การของสามีภรรยาคู่นั้นเป๊ะ!! เจอโครงกระดูกที่โอบแขนกัน มีกะโหลก 2 กะโหลกเล็กและกะโหลกใหญ่ แน่นอนว่ากะโหลกใหญ่นั้นเป็นของผู้เป็นแม่ลักษณะเหมือนมนุษย์ และกะโหลกประหลาดนั้นคือกะโหลกของลูกของพระเจ้า
มีหลายคนสัณนิฐานกันว่าเด็กคนนั้นอาจจะติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์สภาพเลยออกมาพิการอย่างที่เห็น ผมว่าไม่ได้ใช่ถ้ากลายพันธุ์ยังน่าเชื่อกว่า ถ้าเป็นเด็กพิการจริงๆ ก็เป็นการพิการที่แปลกมาก พิการจนมีฟัน 3 ชุด เบ้าตื้นกลายเป็นรูปหยดน้ำ ส่วนเรื่องกะโหลกใหญ่ก็อาจจะเป็นไปได้
ผสมข้ามสายพันธุ์งั้นรึ!! ก็ไม่น่าจะใช่เช่นกันเพราะปกติอวัยวะเพศเมียเมื่อได้รับเชื้อต่างพันธุ์จะขับสารยับยั้งและฆ่าเชื้อตัวนั้นประกอบกับตามตำนานบอกว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นหมัน ที่สำคัญการผสมข้ามพันธุ์จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเป็นการผสมแบบสัตว์ในวงศ์เดียวกันอย่างเช่น สิงโตกับเสือ ม้ากับลา ถ้าเป็นการผสมข้ามพันธุ์จริงแสดงว่ามนุษย์โลกเป็นสัตว์วงศ์เดียวกับพระเจ้าตามตำนานหรือมนุษย์ต่างดาวนั้นเอง
จึงสรุปได้ว่าหญิงคนนั้นเป็นเพียงแม่อุ้มบุญ
ยัง ยังไม่จบ !!
จะมาด่วนสรุปว่าเป็นการอุ้มนั้นมันยังเร็วเกินไปเพราะว่าผู้ชายก็อุ้มบุญได้ พระเจ้าตามตำนานอาจจะเล่นกลจนสามารถผสมข้ามสานพันธุ์กับสัตว์ต่างวงศ์ได้แล้วก็เป็นไปได้ เราจะมาเอาเทคโนโลยีเท่าหางอึ่งของเราไปเทียบกับสิ่งมีชีวิตที่เดินทางระหว่างดวงดาวเป็นว่าเล่นไม่ได้ เขาอาจะค้นพบวิธีการหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ล้ำหน้ากว่ามนุษย์โลกมากนัก
ขอสรุปอีกทีครั้งนี้จะจบจริงๆ แล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน มีหลายตำนานเทพที่เล่าถึงลูกครึ่งเทพ อาจจะเป็นการผสมข้ามพันธุ์จริงๆ ก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น