1 ส.ค. 2557

สงครามศักดิ์สิทธิ์ "ครูเสด"

ช่วงนี้เห็นดินแดนตะวันออกกลางรบกันบ่อยเหลือเกิน มีตั้งหลายกลุ่มหลายก้อนจริงๆ แล้วดินแดนแถบนั้นมีสงครามกันมาตั้งยุคเทพพระเจ้าครองโลกแล้วจนถึงยุคปัจจุบันสงครามก็ยังไม่หมดไป แต่ว่าเวลาฟังข่าวประเภทนี้เคยได้ยินคำว่า "สงครามศักดิ์สิทธิ์" กันมั่งไหม ถ้าเคยได้ยินรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร วลีนี่ปลุกใจพวกกลุ่มกบฎในตะวันออกกลางเวลาทำสงครามกับชาวตะวันตกได้ดีเลยล่ะ เพราะว่าจุดเริ่มต้นของสงครามศักดิ์สิทธิ์มาจากการต่อสู้ของผู้นับถือศาสนาต่างกันตั้งแต่เกือบๆ พันปีก่อน คงไม่ต้องบอกนะว่าศาสนาไหนกับศาสนาไหน (อิสลามกับคริสต์ไง) และนี่แหละครับที่ทำให้มุสลิมส่วนใหญ่ในตะวันออกกลางเกลียดพวกฝรั่งเพราะว่าฝรั่งนับถือคริต มุสลิมเกลียดคริสต์เลยเกลียดพวกฝรั่งไปด้วย (ทั้งๆ ที่มีหลักฐานยืนยันชันเจนว่าศาสนาคริสต์ก็กำเนิดในดินแดนตะวันออกกลาง) ส่งผลไปถึงแนวความคิดทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ ถูกต่อต้านจากขาวตะวันออกกลางถึงกับห้ามสอนในโรงเรียนกันเลย อย่างบางประเทศไม่เชื่อเรื่องการวิวัฒนาการ มนุษย์มาจากลิง สัตว์น้ำวิวัฒนาการเป็นทั้งสัตว์บกและสัตว์ปีก และอีกบลาๆๆๆๆ ด้วยซ้ำ
เกริ่นนำเหมือนจะนอกเรื่องตามแบบฉบับของนายเจซีไปและ ทีนี้เข้าประเด็นกันดีกว่าโพสนี้จะพูดถึงเฉพาะสงครามศักดิ์สิทธิ์ที่ได้ยินกันในข่าวบ่อยๆ ในช่วงต้นคริสตกาลมีนักบุญจาริกในปาเลสไตน์์ตอนแรกๆ ก็ดีอยู่หรอก แต่ในปี 1076 พวก "เติกร์กมุสลิม" ได้เป็นใหญ่ในดินแดนนี้ทำการฆ่า ปล้น และทำลายโบสถ์คริสต์จนเรียบวุธ "ปีเตอร์มหาฤาษี" พระคริสเตียนรูปหนึ่งจาริกมาพอดีได้เห็นการกระทำนั้นเลยเดินทางกลับยุโรปบ้านเกิดและทูลถึงท่านสังฆนายก เออบันที่ 2 ซึ่งท่านก็สนับสนุน จากนั้นก็ตีฆ้องร้องปล่าวถึงชาวคริสต์ให้มาร่วมกันชิงดินแดนของพระไครสท์ (พระเยซูนั่นแหละ) คืนจากพวกเติร์ก แล้วก็ได้รับการร่วมมืออย่างดีซะด้วย แต่ยังไงนักบุญก็ย่อมเป็นนักบุญไม่ใช่นักรบ ถึงการรวบรวมพลจะได้มากถึง 250,000 คนแต่เกือบทั้งหมดเป็นชาวบ้านธรรมดามีทั้งผู้หญิง เด็ก ไม่มีความสามารถในการรบอาวุธก็ตามแต่จะหาได้ เสบียงก็หายยากต้องปล้นเอากลางทาง ทำให้กองทัพของปีเตอร์มหาฤาษีพ่ายแพ้ยับเยิน ในปี 1096 มีการรวบรวมกองทัพขึ้นมาใหม่ครั้งนี้มีทหารจริงๆ มากกว่าในหนแรกเพราะมีผู้ครองนครต่างๆ เข้าร่วมและครั้งนี้ฝ่ายคริสต์เป็นฝ่ายมีชัยและตั้ง "กอดเฟร์แห่งบุตรอินยอง" ผู้นำทัพของเบลเยี่ยมครองเมืองที่เหลือก็แยกย้ายกันกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เหมือนหนังรีเมคครับ ชาวเติร์กรวมพลก็ขึ้นมาชิงเมืองหลวงเยรูซาเลมคืนแล้วก็ชิงกันไปชิงกันมา พอชาวยุโรปแพ้ก็กลับไปรวบรวมกองทัพมามารบใหม่ วนๆ กันไปผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะตามบุญตามกรรมกันไป มีอียิปต์เข้ามาแจมเป็นครั้งคราวแต่บทไม่เด่นเท่าไร
สงครามในช่วงแรกๆ ก็พอจะเรียกได้ว่าสงครามศาสนาได้อยู่หรอกแต่หลังๆ เหมือนเป็นการเมืองมากกว่าเนื่องจากว่าปาเลสไตน์เป็นดินแดนบ้านเกิดของพระเยซูคริสตศาสนิกชนย่อมต้องการเข้าไปเคารพและจาริกแสวงบุญเป็นธรรมดา แล้วนครเยรูซาเลมเมืองหลวงของปาเลสไตน์ในขณะนั้นทางมุสลิมเขาก็บอกว่าเป็นเมืองที่พระเจ้าของพวกเขาเป็นคนสร้างย่อมไม่ต้องการให้พวกคริสต์เข้ามาครองอยู่แล้ว เรียกได้ว่าถ้าใครครองเมืองนี้ได้จะสะดวกทั้งการเผยแผ่ศาสนา เศรษฐกิจก็ดี ได้ทั้งความร่ำรวยและความศรัทธา เห็นได้จากสงครามครั้งหลังๆ มักจะมีเจ้าครองเมืองที่มีซื่อเสียงหลายคนต่างลงขันต์ร่วมชิงเมือง ถ้าไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนคงไม่ส่งทหารมาครั้งแล้วครั้งเล่าถึงจะแพ้มากขนาดไหนก็ยังยอมส่งทหารมาเรื่อยๆ แล้วก็เป็นชาติเดิมๆ ฝรั่งเศษ เยอรมัน อังกฤษ วนๆ อยู่สามประเทศนี้แหละ ถึงสงครามครูเสดจะจบไปตั้งแต่ปี 1291 แต่คำว่าสงครามศักดิ์สิทธิ์ก็ยังถูกใช้มาจนถึงปัจจุบันที่มักจะเอาไว้ปลุกใจ น้าวโน้มจิตใจของผู้คลั่งศาสนา มาทำสงครามกันบ่อยๆ บางก็อ้างว่าเป็นความต้องการของพระเจ้า หลายเหตุผลแต่จะอ้างแต่สุดท้ายมันก็แค่เกมส์การเมืองชิงความเป็นใหญ่และต้องการอำนาจจากเอกราชของเมืองๆ หนึ่งที่ยกระดับเป็๋นประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น